Best supporting employee

It will be alright if you don't press it. 

The frustration, the greed, the anger 

It's like I have a blackhole inside and it sucked all the explosion in. 

But it doesn't mean I didn't explode. 

Why do I have to concern and worry this much 

Why does it have to be this complicated. 

Why do I have to understand and accept every single fucking things when nobody would care enough to look at it. 

I knew it make me tough and delicated and superb and make others' lives easier. BEST SUPPORTING EMPLOYEE ever, right?

A year and I'll go with all the things I deserve

So, you guys should learn how to wipe your own ass. I'm not gonna save yours forever. 

 

 

 

 

Chain

It's been happening every week, I am afraid of the frequency. 

I am afraid that all the normal, peaceful moment is just a lie. 

I am not getting better.

And my head is filled with all these negative thoughts. 

In parallel universe, I died a million times

and exploded

and gone beyond the line.

But here, I'm still keeping myself sane

as much as I can.

Why do I have to endure all of this?

Why can't I escape somewhere?

I have been asking myself since this morning.

What chain me here?

I should start, shouldn't I?

Before I can't control it anymore.

Right? Right? 

มันก็มีวันที่ไหว และวันที่อ่อนแอ

สวัสดี กลับมาอีกแล้วล่ะ อาจจะเพราะว่าช่วงนี้ชักจะป่วยขึ้นมาอีกแล้ว อาจจะเพราะสองสามวันมานี้ทำตัวเข้มแข็งกว่าปกติเปล่านะ 

ไม่รู้ว่าด้วยเหตุผลอะไร ทั้งที่เรื่องไหนๆก็เล็กน้อยทั้งนั้น แต่ทำให้เหนื่อยมากจริงๆ และฉันควรจะนอนหรือพัก แต่ก็ไม่อยากทำ เพราะคิดว่าวันนี้มันจะจบลงแบบนี้เหรอ 

ไม่ได้เกี่ยวข้องกับสิ่งที่ตัดสินใจทำ แต่เป็นสิ่งที่คนอื่นตัดสินใจทำกับเรามากกว่าละมั้ง แล้วก็จะเริ่มคิดถึงเรื่องอื่นๆมากขึ้นเรื่อยๆ

รู้สึกว่าซีเนียร์คนนี้ปล่อยรังสีไม่ดีกว่าคนเก่าอีก นี่ถึงเวลาที่ฉันจะต้องย้ายงานอีกแล้วรึเปล่า คอนแทคที่ต่ออีกหนึ่งปีจะได้แอพพรูฟไหม จริงๆการย้ายงานก็ไม่ได้หนักหนา แต่ก็นะ คิดว่าถ้าต้องหยุดนิ่งเน่าๆเป็นมนุษย์กินเงินเดือนที่ไหนซักที่ ที่นี่มันก็ไม่เลวหรอก 

แล้วเมื่อไหร่ระบบย่อยจะแข็งแรงไม่ปวดท้องกินข้าวได้สบายใจซะที 

เมื่อไหร่จะไม่ต้องรบรากับคนในบ้าน จมกับอคติแล้วก็การเป็นการลงทุนของเขา 

มันไม่ได้ทนไม่ได้ แต่บางทีก็อยากไม่อยากมีอะไรพวกนี้แล้ว 

เมื่อไหร่จะหมดเวรหมดกรรมกันเสียที 

ระบบความคิดแบบนี้ไม่ดีเลย ทำเราจมอยู่ในความทุกข์เรื่องแรกไปเรื่องสองไปเรื่องสามแล้วก็ทำให้รู้สึกเหนื่อย 

ตอนนี้เหมือนขึ้นไปที่ปากบ่อเองไม่ได้ แล้วก็ร้องไห้ให้น้ำตามันท่วมตัวเอง 

สงสัยต้องไปที่เวลเนสอีกแล้ว 

เป็นแบบนี้ต่อนี่ไม่โอเคแน่ๆ 

แต่ก่อนอื่นต้องนอน

ก่อนนอนต้องเดินไปปิดไฟ 

ก่อนไปปิดไฟต้องเป่าผม

ต้องทาครีม ต้องแต่งตัว

และต้องลุกขึ้นมา

ลุก 

กลั้นหายใจแล้วลุกขึ้นมา

ปล่อยเท้าลงเตียงทีละข้าง 

โอเค ดี 

โอเค ลุกได้แล้ว 

ทาครีมซะ 

ละตาจากจอมือถือ กระปุกอยู่ในตู้ 

ทำได้ เอ้า ไป 

เงยหน้าขึ้น 


สิ่งที่บกพร่องแต่สมบูรณ์

รับรู้ข้อเสียของตัวเองมากขึ้น

ฉันเคยเป็นคนที่ไม่รู้มาก่อนเลยว่าตัวเองมีข้อเสียอะไร

อ่านประโยคเมื่อกี้แล้วก็คิดว่าตลกไหม

เรารู้ว่าตัวเรา ทุกคน ทุกคน ต้องมีข้อเสีย 

เพราะเราถูกสอนว่า มันไม่มีใครเพอร์เฟคไปซะทุกคน

แต่จริงๆเราไม่รู้หรอกว่าเรามีความบัดซบอะไรซ่อนอยู่ 

เราพูดว่าทุกคนมี แต่เราสำนึกได้จริงๆเหรอว่าคืออะไร 

พ่อแม่ก็มีข้อเสียนะ ถึงจะเป็นพ่อเป็นแม่ก็เถอะ

แต่สิ่งที่เขาเป็นคือสิ่งที่ดีที่สุดในสภาพแวดล้อมที่สร้างเขาขึ้นมาแล้ว

ฉันเคยคิดว่าผู้ใหญ่ที่มีข้อเสียบ้างอย่างในหนังช่างเท่ซะเหลือเกิน

คนบ้างานที่บ้านรกเลอะเทอะ คนที่ดูปกติดีทุกอย่างแต่ต้องต่อสู้กับเสียงกระซิบแปลกๆในหัวของตัวเอง คนที่รักษาชีวิตแต่งงานไว้ไม่ได้

สิ่งที่บกพร่อง แต่สมบูรณ์

พอเริ่มโตเป็นผู้ใหญ่ถึงได้รู้ว่า สิ่งที่เราคิดว่าเท่น่ะ 

โกหกทั้งเพ 555 

เราต่างดีงามในบางแง่ และแม่งบัดซบในบางจุดอยู่เหมือนกัน 

ทุกคน ทุกคน ทุกคน 

ขึ้นกับว่าเราชอบหรือไม่ชอบ เราก็จะเห็นเองว่ามันดีหรือไม่ดี 

เพียงแต่เราไม่รู้ตัวเท่านั้น 

ไม่มีใครพร้อมสำหรับชีวิตไปซะทุกอย่าง

มีแต่คนที่ก็ยังเดินหน้าไปหามัน 

และคนที่ปล่อยให้มันพุ่งเข้ามาหาเท่านั้น

และทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้น ทำให้เราเป็นอย่างเราในวันนี้

แต่ที่สำคัญที่สุดคือ เราทำให้ตัวเราเป็นอย่างนี้ในวันนี้ 

มีคนว่าเราเป็นคนแบบไหนขึ้นกับการเลี้ยงดูกับกรรมพันธุ์ 

แต่เราเองก็เลือกเองด้วยว่าจะเป็นแบบไหน

มีทางเลือกนับไม่ถ้วนในชีวิต

ถ้าเราไม่เลือกเอง มันก็จะเลือกตัวเอง 

และการที่ไม่เลือก แปลว่าเราได้เลือกแล้ว

ผลที่เกิดขึ้นตามหลังจากนั้น

เป็นสิ่งที่เราจะต้องถือไว้แล้วเดินต่อไป 

เมื่อนั้นเราก็จะบกพร่องแต่สมบูรณ์เอง

 

สิบแปด มกราคม สองพันห้าร้อยห้าสิบเก้า นอนไม่หลับเพราะอัดชาเข้าไปจะปั่นงาน แต่งานเสร็จแล้ว

ฝันดีนะ ฝันดี

นี่ช่างเป็นไดอารี่รวมความป่วยไข้บัดซบทั้งกายใจของฉันจริงๆ 555

แต่ก็นั่นแหละ พิมพ์ออกมาแล้วมันก็รู้สึกดีขึ้นละนะ

ตอนนี้ชีวิตดี 

จนเจ็บคอ ไปหาหมอ กินยาครบโดสไม่หาย เลยไปหาหมอที่อีกร.พ.นึง

ระหว่างตรวจหมอก็บอกว่าขอจับตรงคอหน่อย แล้วพอจับปุ๊บก็เจ็บๆนิด กลืนน้ำลายตอนที่โดนจับก็เจ็บ

หมอบอกว่าน่าจะเป็นเนื้องอกตรงไทรอยด์ ว่างๆไปเอ็กซเรย์นะ 

 

โหย บัดซบเลยคุณผู้ชม สมองได้ยินแต่คำว่า เนื้องอก เนื้องอก เนื้องอก (อนึ่งหมอพูดว่าเนื้องอกชนิดไม่ร้ายแรง) 

 

ได้ยารักษาหวัดมา แต่โดนสั่งให้ไปตรวจอัลตราซาวน์และก็เจาะตรวจ

แล้วปฏิบัติการหนีความจริงก็เริ่มขึ้น 

 

มีแบบตั้งชื่อให้อิก้อนนี่ ต่อรองว่าเราเป็นพวกเดียวกัน นายต้องไม่ทำร้ายเรานะ

แอคว่าเออก็โอเคนะ โอเค

คนปลอบก็แบบเออ โอเค

นั่งคิดว่ามันจะเป็นไงต่อ ก็แบบอะ คิดจนจบละ โอเค

ไปตรวจนะ แล้วค่อยว่ากัน บลาๆ

 

แล้วก็เข้าซูชิเดนไปกินแซลม่อนคนเดียว

แล้วก็ไปชอปปิ้ง ซื้อของใช้ ซื้อครีมทาหน้า หนูจะเป็นผู้ป่วยที่งดงาม

 

แม่งเป็นภาวะที่แบบ เราบอกตัวเองว่าเราจะโอเค และเราโอเคอยู่ เราต้องใช้ชีวิตประจำวันต่อไปได้

สามารถคุยกับคนอื่นได้แบบปกติ เพราะเรารู้ว่าเราจะต้องทำไงต่อไป

 

แต่แม่งนะ

 

พอคิดว่าเออคุยกับพี่แอ้มดีกว่า โทรหาเล่าให้พี่แอ้มฟัง อยู่ๆก็ร้องไห้เลย

 

คือ

 

รู้อ่ะว่าต้องทำไง รู้ว่ามันมีโอกาสจะแบบ ไม่เป็นไรนะ ไม่มีเหี้ยอัลลัยเลย แล้วเราก็จะมานั่งขำตัวเองตอนนี้

 

แต่แบบ กลัว

คือมันกลัวนะ ฉันคนที่พูดว่า ต่อให้พรุ่งนี้ตายไปก็ไม่มีอะไรเสียใจ

ก็กลัวขึ้นมาเฉยๆ

แล้วก็นั่งซึมซับความกลัวนั้น

คือการเรียนละครแม่งประหลาด เวลาที่เรารู้สึกอะไรซักอย่างแบบรุนแรง เรามักจะค่อยๆนั่งซึมซับมันไว้ เผื่อในอนาคตต้องใช้เล่นละครจะได้ recall กลับมาใช้ได้ ติดเป็นนิสัยละ

 

(บัดซบ)

 

แล้วระหว่างที่กลัวกับพิจารณาความกลัวนั้น 

ก็คิดถึงแอค 

คิดถึงแอคมาก แบบ จริงๆเราเจอกันแค่ตอนนั้น มันไม่มีอะไร แต่ก็คิดถึง 

เปิดทวีตแอคขึ้นมาดู ทวีตที่พี่ตุ้ยทวีตไว้ให้แอค คือ Death is future perfect tense 

ความตายมันก็อยู่ใกล้ๆเรา เรากำลังเดินไปหามัน 

I will have been dead. 

และวันนึงคนทุกคนที่เรารู้จักก็ต้องตายเนอะ

เคยคิดว่าเอออยากตายก่อนคนอื่นๆ

เพราะไม่อยากต้องไปงานศพใคร 

แต่เอาเข้าจริง ถ้ามันมีเวลาให้รับรู้สักนิดแล้วคนเรามันไม่อยากตายหรอก 

 

ทั้งที่มันเป็นธรรมชาติ เป็นความจริงของธรรมชาติ ที่จะต้องมีการเปลี่ยนแปลง มันไม่มีอะไรอยู่คงทนไปตลอดกาล 

 

พี่เต้ยไปกะทันหัน และไม่มีโอกาสได้คุยกันอีกครั้ง คำพูดสุดท้ายที่คุยกันมันก็จะอยู่กับเราไปตลอดชีวิต

อาม่าไปหลังจากทุกคนทำใจกันเต็มที่แล้ว รู้สึกว่าถึงที่สุดแล้ว ที่สุดเสียที ให้ไปเถอะอย่าทรมานอีกเลย

ตอนที่ได้รู้จักแอค แอคก็กำลังจะไปแล้ว แล้วก็ไปจริงๆเร็วกว่าที่คิดไว้

หนังสือที่อยากให้อ่านยังไม่ได้เอาไปให้ ชาที่ชอบก็ยังไม่ได้เอาไปให้ชิม

และตอนนี้ฉันกำลังนั่งคิดถึงเธออยู่ คิดถึงมากกว่าอาม่าเสียอีก 

 

ความตายมันมีหลายแบบเนอะ 

 

ก็อยากให้คนที่สำคัญกับเรา คิดถึงเราบ้าง เวลาที่เราไม่อยู่แล้วเหมือนกัน 

และตอนที่เรายังอยู่ ก็อยากจะมีเรื่องดีๆให้มากๆ แต่เราก็ไม่อยากให้คิดถึงมากเกินไปเหมือนกัน

เป็นความเห็นแก่ตัว 555  

 

ฉันก็อยากเผชิญหน้ากับความตายดีๆนะ 

พิมพ์เรื่องนี้คิดถึงเรื่องนี้เหมือนจะให้ตัวเองชินกับมัน

เวลาที่เจอจริงๆมันจะได้ไม่น่ากลัว

ซึ่งถ้าจะทำแบบนั้น ก็ต้องเผชิญหน้ากับความกลัวนี้ก่อน

เป็นบททดสอบขั้นแรก

 

และจะเข้มแข็งได้ ต้องมีจิตใจที่โอเค

และร่างกายที่โอเค

จะไปอาบน้ำแล้ว รีบนอนด้วย

 

ยังไม่ได้บอกแม่กับป๊า แต่รู้สึกได้ว่าป๊าจะเครียดจนนอนไม่หลับ

ส่วนแม่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเป็นยังไง

 

แต่ตอนนี้อยากจะอยู่กันดีๆ 

อาจจะไม่บอก เอาไว้ก่อน 

 

แล้วจะมาเล่าต่อนะ จะไปอาบน้ำนอนแล้วล่ะ

 

ฝันดีนะ ฝันดี 

 

 

เพื่อไม่ให้มันเศร้าจนเกินไป

เพื่อไม่ให้มันเศร้าจนเกินไป

ยังมีชีวิตอยู่

และมีชีวิตอยู่ต่อไป

ตอนนี้อาจจะพูดไม่ได้ว่ามีความสุขมาก

แต่ก็ไม่ได้มีความทุกข์ที่หนักหนา

 

 

วันก่อนอาบน้ำอยู่แล้วนึกได้ว่า 

การพูดนั้นง่ายกว่าทำ

เราเรียนเรื่องอริยสัจตั้งแต่ประถม

แต่ไม่เห็นมีใครตรัสรู้

 

การเป็นมนุษย์นี่ช่างน่ากลัว

แต่การเป็นมนูษย์ก็มีสิ่งดี

 

ฉันคิด รอเวลาที่จะมีสิ่งไหนมาทำให้หยุดคิด

แล้วก็กลับมาคิดอีก

วนเวียนไปจนกว่าจะไม่อาจคิดอะไรได้อีกเลย

 

นี่เป็นตะกอนความคิดที่ฟุ้งมาก 

แต่คนเขียนก็ยังสบายดี

 

 

คิดว่านะ.. 

 

Hua Hin Diary # day 1

It's quite nice having a multinational company trip which letting you stay at a very good hotel. Only one disadvantage of staying at a hotel with foreigners is you won't have spicy food on the menu, not to mention pork. 

 

So the dinner dishes were sweet, creamy and oily I felt it's worth mentioning to the organizers. 

 

Hua Hin Night market (or Hua Hin walking street or whatever) is less crowed on Sunday night. Too less it took only 10 minutes to walk around. It was much more interesting when I was younger... with lots more food, not the cheap-looking swimming suits, toys and beach wears.  

 

One important thing I want to note down, Thai people should be awared of our racist mindset we are having, seriously.